designhotelsguide.com
การเจรจากันเองกำหนดไว้เพียงว่าต้องเริ่มเจรจากันครั้งแรกภายใน 3 วัน หากไม่สามารถตกลงกันได้ การเจรจาสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่มีการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่ายจะเจรจากันจนกว่าจะได้ข้อยุติ หรือไม่ประสงค์จะเจรจากันต่อไป คำถามที่ 6 ถ้าเจรจาตกลงกันเองได้ จะต้องทำอย่างไรต่อไป? ถ้าตกลงกันได้ ให้ทำบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเป็นหนังสือ โดยนายจ้างต้องปิดประกาศข้อตกลงฯ โดยเปิดเผย ณ สถานที่ทำงานเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน โดยเริ่มประกาศภายใน 3 วันนับแต่วันที่ตกลงกันได้และนายจ้างต้องเป็นผู้นำข้อตกลงฯ ไปจดทะเบียนที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด หรือที่สำนักแรงงานสัมพันธ์ ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ตกลงกันได้ หากไม่นำไปจดทะเบียนจะมีโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท คำถามที่ 7 ถ้าเจรจากันแล้วแต่ตกลงกันไม่ได้จะทำอย่างไรต่อไป? ถ้ามีการเจรจากันภายใน 3 วัน และมีการเจรจากันอย่างต่อเนื่องแต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ และไม่ประสงค์จะเจรจากันเองต่อไป ให้ฝ่ายที่แจ้งข้อเรียกร้องแจ้งเป็นหนังสือต่อพนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงาน ภายใน 24 ชั่วโมงนับจากเวลาที่ไม่สามารถตกลงกันได้ หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขอยุติการเจรจา คำถามที่ 8 การแจ้งข้อพิพาทแรงงานต่อพนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานจะแจ้งได้ที่ไหน อย่างไร?
การ เสริมสร้างระบบแรงงานสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง หรือสหภาพแรงงาน ทั้งสองฝ่ายจะต้องปรับตัวเข้าหากัน โดยอยู่บนพื้นฐานของคำว่า "การเป็นผู้ให้และการเป็นผู้รับ" กล่าว คือ นายจ้างจะต้องเป็นผู้ให้ในสิ่งที่ลูกจ้างต้องการอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ ขณะเดียวกันลูกจ้างก็จะต้องเป็นผู้ให้ผลงาน หรือการทำงานที่ดีมีประสิทธิภาพและคุณภาพกับฝ่ายนายจ้าง เพื่อเป็นการตอบแทนเช่นกัน HR มือใหม่ ควรจะได้ศึกษาพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ. ศ. 2518 ให้เกิดความเข้าใจในกระบวนการขั้นตอนของระบบแรงงานสัมพันธ์ ดังนี้ 1. การเรียกร้องขอปรับปรุงสภาพการจ้าง ถ้านายจ้างหรือลูกจ้างเห็นว่า สภาพการจ้าง เช่น กำหนดเวลาทำงาน ค่าจ้าง สวัสดิการต่างๆ ไม่เหมาะสม พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ. 2518 บัญญัติ ให้ลูกจ้าง หรือนายจ้างมีสิทธิยื่นข้อเรียกร้องต่ออีกฝ่ายหนึ่งได้ เช่น ลูกจ้างขอขึ้นค่าจ้าง ขอเสื้อผ้าชุดทำงาน เป็นต้น และให้ทั้งสองฝ่ายตั้งผู้แทนมาเจรจาต่อรองกัน เมื่อตกลงกันได้ ก็จะเกิดสภาพการจ้างใหม่ที่เป็นไปตามข้อตกลงนั้นๆ 2. การยื่นข้อเรียกร้องที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีคำถามว่า เมื่อไรจึงจะยื่นข้อเรียกร้องได้ ถ้าในกรณีมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมาก่อน ให้ยื่นภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเดิม แต่ถ้าไม่กำหนดระยะเวลาไว้ให้ยื่น เมื่อข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่ทำไว้ใกล้จะครบกำหนดอายุข้อตกลง เช่น 30 หรือ 60 วัน ก่อนวันครบอายุข้อตกลง เพื่อทั้งสองฝ่ายจะได้มีเวลาเจรจาต่อรองทำข้อตกลงใหม่ต่อเนื่องจากข้อตกลงเดิม แต่ในกรณีที่ยังไม่เคยมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมาก่อนเลย จะยื่นข้อเรียกร้องเมื่อไรก็ได้ 3.
กฤติน กุลเพ็ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอโอดีคอนเซาท์ติ้ง แอนด์เทรนนิ่ง จำกัด วิทยากรและที่ปรึกษา ให้กับภาครัฐและภาคเอกชน ID line: krittin6
นายจ้าง หรือลูกจ้างยื่นข้อเรียกร้องต่อกันเป็นหนังสือ 2. ตั้งตัวแทนฝ่ายละไม่เกิน 7 คน เข้าเจรจาต่อรองกัน 3. ถ้าตกลงกันได้ จัดทำบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างและจดทะเบียนข้อตกลงกับเจ้าหน้าที่ 4. แต่ละฝ่ายปฎิบัติตามข้อตกลง มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ิ 5. ถ้าเจรจาตกลงกันเองไม่ได้ถือว่าเกิดข้อพิพาทแรงงาน ต้องแจ้งให้พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานเข้าไปร่วมเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงาน 6. ถ้าไกล่เกลี่ยตกลงกันได้ก็จัดทำข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างและจดทะเบียนข้อตกลง 7. ถ้าเจรจาไกล่เกลี่ยตกลงกันไม่ได้ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจกดดันอีกฝ่ายโดย ฝ่ายลูกจ้างนัดหยุดงาน หรือฝ่ายนายจ้างปิดงาน จนกว่าอีกฝ่ายจะยินยอมตกลงด้วย ตามที่กล่าวข้างต้น เป็นขั้นตอนคร่าว ๆ นะครับ ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องศึกษาเพิ่มเติมอีก การนับระยะเวลา วิธีการต่าง ๆ ต้องดูจาก พรบ. แรงงานสัมพันธ์พ. ศ. 2518 นี่คือกระบวนการขั้นตอนแรงงานสัมพันธ์ที่ถูกต้อง แตที่่ท่านเห็นเขาพากันเดินขบวนไปทำเนียบ ไปกระทรวงแรงงาน ไปสนามหลวงนั้น เป็นเรื่องนอกเหนือกระบวนการแรงงานสัมพันธ์ แต่พวกเขาอาจทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ถ้าไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ก็คงไม่เป็นไร...
กรณีที่สถานประกอบกิจการอยู่ในจังหวัดใด ให้ผู้แจ้งข้อเรียกร้องแจ้งต่อพนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานที่สำนักงาน สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนั้น กรณีที่อยู่ในกรุงเทพมหานครให้แจ้งที่กลุ่มงานประนอมข้อพิพาทแรงงานและข้อ ขัดแย้ง สำนักแรงงานสัมพันธ์ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน โดยต้องทำเป็นหนังสือแจ้งต่อพนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานภายใน 24 ชั่วโมงนับแต่ไม่มีการเจรจากันเอง หรือมีการเจรจากันแล้วแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ คำถามที่ 9 เมื่อแจ้งข้อพิพาทแรงงานต่อพนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานแล้ว ขั้นตอนจะเป็นอย่างไรต่อไป? พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานจะทำหนังสือเชิญทั้งสองฝ่ายมาพบ เพื่อเจรจากันและหาแนวทางยุติข้อพิพาทแรงงาน ซึ่งระยะเวลาในการไกล่เกลี่ยตามกฎหมายกำหนดไว้ 5 วัน และเมื่อตกลงแล้วนายจ้างจะต้องนำข้อตกลงฯ ไปจดทะเบียนภายใน 15 วัน คำถามที่ 10 ถ้ายังตกลงกันไม่ได้มีขั้นตอนอย่างไรต่อไป? ในกรณีที่เกิดข้อพิพาทแรงงานขึ้นและเป็นข้อพิพาทแรงงานที่ไม่สามารถตกลงกัน ได้และครบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด 5 วันแล้ว หากนายจ้างประสงค์จะใช้สิทธิ์ปิดงานหรือลูกจ้างประสงค์จะใช้สิทธิ์นัดหยุด งานก็สามารถทำได้ในขั้นตอนนี้ โดยจะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งและพนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานทราบเป็น หนังสือ ก่อนจะใช้สิทธิ์นัดหยุดงาน หรือปิดงาน อย่างน้อย 24 ชั่วโมง คำถามที่ 11 ถ้าเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยเกิน 5 วันแล้ว แต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ลูกจ้างหรือนายจ้างต้องนัดหยุดงาน หรือปิดงานหรือไม่?
การเจรจาต่อรอง (อ่านมาตรา16, 17) ให้ทั้งสองฝ่ายมีการเจรจาภายในเวล 3 วัน ฝ่ายนายจ้างหรือฝ่ายลูกจ้างซึ่งรับข้อเรียกร้องต้องแจ้งชื่อผู้แทนในการ เจรจา และเริ่มต้นในการเจรจาต่อรองกับผู้แทนฝ่ายที่ยื่นข้อเรียกร้อง ถ้า ตกลงกันได้ให้ทำข้อตกลงเป็นหนังสือ ผู้แทนในการเจรจาของทั้งสองฝ่ายลงลายมือชื่อร่วมกัน จากนั้นให้นายจ้างประกาศข้อตกลงโดยเปิดเผย ณ สถานที่ที่ลูกจ้างทำงานอยู่ และให้นายจ้างนำข้อตกลงไปจดทะเบียนกับพนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงาน ภายใน15วัน นับแต่วันที่ตกลงกันได้ 5.
"พนักงานตรวจแรงงาน" หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ. ศ.
/โทรสาร 0-2246-8825, 0-2246-8455, 0-2246-8993, 0-2245-7688 7. ข้อคิดเตือนใจ 1. ใน ระหว่างการยื่นข้อเรียกร้องกฎหมายให้ความคุ้มครองลูกจ้าง ห้ามมิให้นายจ้าง เลิกจ้าง หรือกระทำการใดๆ อันอาจเป็นผลให้ลูกจ้างไม่สามารถทนทำงานอยู่ต่อไปได้โดยอาจถือว่า เป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมของนายจ้างได้ (มาตรา 52, 121, 122, 123) 2. การนัดหยุดงานผิดขั้นตอนอาจถูกเลิกจ้างและถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย 3. ระหว่างเจรจาข้อพิพาทแรงงานอย่ากระทำการใดๆอันเป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่นหรือผิดกฎหมายใดๆ 4. ระหว่างนัดหยุดงานนายจ้างมีสิทธิไม่จ่ายค่าจ้าง 5. การเรียกร้องการเจรจา ควรเป็นไปด้วยเหตุผล หลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์และกระทำที่เป็นการยั่วยุอีกฝ่ายหนึ่ง 6. ควรระลึกอยู่เสมอว่าทั้งนายจ้างและลูกจ้างจะต้องกลับไปทำงานร่วมกันอีก 7.