designhotelsguide.com
เป็นแหล่งผักอาหารที่สำคัญ และนิยมนำมาบริโภคเป็นอาหารได้หลากหลายชนิด 2. เป็นแหล่งอาหารเสริมแคลเซียม เนื่องจากมีปริมาณแคลเซียมสูงเมื่อเทียบกับผัก ผลไม้ชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ และหลังคลอดใหม่ๆ 3. ช่วยบำรุง และเสริมสร้างกระดูก และฟัน 4. ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน กระดูกเสื่อมในวัยผู้สูงอายุ โรคโลหิตจาง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ช่วยให้แผลหายเร็ว ช่วยในการมองเห็น และบำรุงตา 5. ช่วยเพิ่มปริมาณสารอิเล็กโทรไลต์ของแคลเซียมในร่างกาย ทำให้ระบบการทำงานที่เกี่ยวข้องกับแคลเซียม และเหล็กทำงานปกติ เช่น การทำงานของระบบฮอร์โมน เอนไซม์ เลือด การควบคุมน้ำตาลในเลือด กล้ามเนื้อ และกล้ามเนื้อหัวใจ และระบบกระดูก ปริมาณสารอาหารใคะน้า (100 กรัมสด) – พลังงาน 24 แคลอรี – โปรตีน 2. 7 กรัม – คาร์โบไฮเดรต 2. 2 กรัม – แคลเซียม 245 มิลลิกรัม – เหล็ก 1. 2 มิลลิกรัม – วิตามินซี 147 มิลลิกรัม – เส้นใย 3. 2 กรัม ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลำต้น ลำต้นมีลักษณะตั้งตรง สูง 20-30 ซม.
ตามสภาพลักษณะหน้าดิน และรากฝอยสีน้ำตาลอ่อนซึ่งพบไม่มาก พันธุ์ที่นิยมปลูก 1. พันธุ์ใบกลม มีลักษณะของใบค่อนข้างกลม ใบกว้าง ปลายใบมน ออกเป็นลูกคลื่นเล็กน้อย ก้านใบสั้น 2. พันธุ์ใบแหลม มีลักษณะใบค่อนข้างแหลมยาว ใบแคบกว่าพันธุ์ใบกลม ก้านใบยาว 3. พันธุ์ยอด ใบมีลักษณะเหมือนพันธุ์ใบแหลม จำนวนใบน้อย แต่มีช่วงก้านยาวกว่า เช่น พันธุ์แม่โจ้ 1 สำหรับพันธุ์แม่โจ้ 1 เป็นพันธุ์ ที่ได้รับความนิยมในการรับประทาน มีลักษณะลำต้นใหญ่สูง ยอดยาว ใบไม่มาก ซึ่งตรงตามความนิยมที่คนส่วนมากชอบรับประทานยอด และลำต้นคะน้าที่อ่อนอวบ การปลูกผักคะน้า การเพาะกล้า ใช้วิธีการหว่านเมล็ดในแปลงที่ยกร่องแปลงสูง ประมาณ 30 เซนติเมตร ขนาดแปลง 2×2. 5 เมตร การเตรียมแปลงหว่านให้กำจัดวัชพืช และใช้ปุ๋ยคอกหรือมูลสัตว์หว่านโรยประมาณ 2 ถัง พร้อมพรวนดินคลุกให้ปุ๋ยผสมกับดิน หลังจากนั้นทำการหว่านเมล็ดพันธุ์ 1-2 ถุง และให้โรยทำด้วยดินผสมปุ๋ยคอกอีกครั้งก่อนวางทับด้วยฟาง และรดน้ำให้ชุ่ม เมล็ดจะงอกประมาณ 3-5 วัน หลังจากเมล็ดงอก 7-10 วัน ให้คัดเลือกต้นกล้าที่สมบูรณ์ และถอนต้นที่ไม่สมบูรณ์ทิ้ง การเตรียมแปลงปลูก การเตรียมแปลงปลูกคะน้ามักปลูกในแปลงที่ยกร่องสูงเหมือนกับการปลูกผักชนิดอื่นๆ – ระดับแปลงควรสูงอย่างน้อย 20-30 ซม.
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.
น. ส.
กว้าง 2-3 เมตร ขนาดความยาวตามความเหมาะสม – ทำการกำจัดวัชพืช และหว่านโรยด้วยปุ๋ยคอกหรือมูลสัตว์ 1000 กก. /ไร่ ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตรา 20 กก. /ไร่ – ทำการไถกลบแปลง และตากแดดประมาณ 5-10 วัน – ทำการไถพรวนแปลงอีกครั้งก่อนปลูก และตากดินประมาณ 3-5 วัน วิธีการปลูก – การปลูกจะใช้ต้นกล้าที่มีอายุ 20-30 วัน หรือมีใบแท้ประมาณ 3-5 ใบ ต้นสูงประมาณ 10 ซม. – การย้ายกล้าปลูกควรมีดินติดรากหรือหากไม่มีให้แช่รากในน้ำระหว่างปลูก และที่สำคัญควรปลูกทันทีเมื่อถอนต้นกล้า – ระยะปลูกระหว่างต้น และแถวประมาณ 20×20 เซนติเมตร การดูแล การให้น้ำ จะให้น้ำตั่งแต่หลังการปลูกทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ในช่วงระยะเริ่มแรก และวันละ 1 ครั้ง ก่อนเก็บผลผลิตประมาณ 10-15 วัน การให้น้ำสามารถให้ด้วยวิธีธรรมดาด้วยการรดมือหรือใช้ระบบสปริงเกอร์ การใส่ปุ๋ย จะเริ่มใส่ปุ๋ยหลังจากปลูกต้นกล้าประมาณ 10-15 วัน ด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-8 อัตรา 50 กก. /ไร่ ร่วมด้วยกับปุ๋ยคอกประมาณ 300 กก. /ไร่ สำหรับปุ๋ยเคมีอาจให้ด้วยวิธีการหว่านหรือการละลายน้ำแล้วฉีดพ่น การกำจัดวัชพืช ควรมีการตรวจสอบแปลงคะน้า และกำจัดวัชพืชเป็นประจำทุกเดือนหลังการปลูก การเก็บผลผลิต คะน้าสามารถเก็บต้นได้หลังจากหว่านเมล็ด 40-60 วัน ด้วยการใช้มีดตัดชิดโคนต้น ไม่ควรใช้มือเด็ดถอน พร้อมเด็ดใบแก่ติดโคนต้นออก 1-2 ใบ และนำมาล้างทำความสะอาด ทั้งนี้ อาจต้องเก็บผักก่อนระยะกำหนดหากมีอาการเกิดโรคในระยะที่คะน้าโตเต็มที่ ข้อพิจารณาการเก็บคะน้า 1.
นิทานนางสาวไข่เจียว ตอนปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ | นิทานสอนใจ indysong kids - YouTube
รายละเอียด *** ลิขสิทธิ์ถูกต้องภายใต้หจก.
การ์ตูน สอนปลูกผักแสนสนุก - YouTube
ย. 2565 11:32 เล่ม1 (1-60) เล่ม2 (61-120) เล่ม 3 (121-180) เล่ม4 (181-240) เล่ม 5 (241-300) เล่ม 6 (301-360) เล่ม 7 (361-420) เล่ม 8 (421-480) เล่ม 9 (481-540) เล่ม 10 (541-600)