designhotelsguide.com
ที่หมอชอบขู่ว่าคนเป็นโพลิปในถุงน้ำดีถ้าไม่ผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกทิ้งไปเสียจะเป็นมะเร็งนั้น โอกาสเป็นมะเร็งจริงๆมีกี่เปอร์เซ็นต์ ตอบว่างานวิจัยที่ดีที่สุดในเรื่องนี้ ได้ศึกษาย้อนหลังไปห้าปีเพื่อดูว่าผู้ป่วยที่เป็นโพลิปแล้วหมอเห็นว่ามีความเสี่ยงจะเป็นมะเร็งจึงจับผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกเสีย เมื่อเอาถุงน้ำดีที่ตัดออกมาตรวจดูพบว่าจากจำนวนที่ผ่าตัดทั้งหมด 93 คน พบว่าโพลิปเป็นชนิดที่กลายเป็นมะเร็ง 2 คน (2. 2%) ขณะที่ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก(ด้วยวิธีผ่านกล้อง) มีความเสี่ยงประมาณ 2. 6% พูดง่ายๆว่าการผ่าตัดอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย นั่นเป็นแนวคิดสำหรับคนที่ไม่อยากจะผ่าตัด เมื่อเอาสองคนที่เป็นมะเร็งไปวิเคราะห์ดูพบว่าทั้งสองคนนี้เป็นโพลิปชนิดอยู่เดี่ยวๆ ไม่ใช่ชนิดอยู่เป็นกลุ่ม และมีขนาดโพลิปโตมาก คือโตเฉลี่ย 18. 8 มม. หรือเกือบสองซม. และตัวผู้ป่วยมีอายุมาก คือเฉลี่ย 57 ปี ผู้วิจัยจึงเสนอว่าควรผ่าตัดเฉพาะเมื่อผู้ป่วยมีอายุเกิน 50 ปีและมีโพลิปขนาดโตกว่า 1 ซม. ขึ้นไป ก็อาจจะมีความคุ้มค่าที่จะผ่าตัด นั่นเป็นแนวคิดสำหรับคนที่อยากจะผ่าตัด คือผ่าเมื่อมีปัจจัย "ขนาดโต" ที่จะเกื้อหนุนให้เป็นมะเร็งมากกว่าปกติ ประเด็นที่ 2.
นิ่วทางเดินน้ำดี gallstone, CBD, bile, bilirubin, jaundice, ดีซ่าน เหลือง ตับ, calcium, medbible สาเหตุ มี 3 ปัจจัยหลัก คือ ความอิ่มตัวของน้ำดี การบีบตัวของถุงน้ำดีไม่ดี หรือมีการอุดตันของทางเดินน้ำดี การติดเชื้อในทางเดินน้ำดี ความชุกและปัจจัยเสี่ยง นิ่วในทางเดินน้ำดี เป็นโรคที่พบบ่อย. พบได้ประมาณ 5-10% ของประชากร. โดยพบใน เพศหญิงมากกว่าชาย ประมาณ 2-3 เท่า. และพบได้มากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น (ส่วนใหญ่ พบในอายุ มากกว่า 40 ปี, ในคนอายุเกิน 70 ปี พบได้ถึงประมาณ 15-30%). ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความอ้วน, เบาหวาน, โรคโลหิตจางบางชนิด, อาหารไขมัน, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบว่า มีอุบัติการณ์ของโรคนี้สูงขึ้น. ตำแหน่งของนิ่ว นิ่วในทางเดินน้ำดี ส่วนใหญ่ พบอยู่ในถุงน้ำดี(Gall Bladder) (ประมาณ 75%), พบในท่อน้ำดี(Common bile duct) (ประมาณ 10-20%), พบร่วมกันทั้ง 2 แห่ง (ประมาณ 15%), ส่วนน้อยพบอยู่ในท่อน้ำดีในตับ(liver) (ประมาณ 2%). อาการและอาการแสดง 1. ไม่มีอาการ: นิ่วในถุงน้ำดี ส่วนใหญ่ (มากกว่า 50%) ไม่มีอาการ และในกลุ่มนี้จะมีโอกาสเกิดอาการขึ้นได้ ประมาณ 1-2% ต่อปี. 2. มีอาการ 2. 1 ท้องอืด แน่นท้อง (Dyspepsia): โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังรับประทานอาหารมัน.
3. การกลับไปปฏิบัติหน้าที่การงานหลังการรักษาเร็วกว่า. 4. แผลผ่าตัดสั้นกว่า จึงมีผลต่อความสวยงามของหน้าท้อง. ข้อเสีย 1. ต้องใช้เครื่องมือพิเศษบางอย่าง ทำได้เฉพาะใน ร. เพียงบางแห่ง. 2. ค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า. 3. ต้องใช้ศัลยแพทย์ที่มีความสามารถในการผ่าตัดวิธีนี้. โดย นพ. นพวัชร์ สมานคติวัฒน์ ศัลยแพทย์
อาการจุกเสียดทางเดินน้ำดี: สิ่งที่พวกเขามีอาการและสาเหตุ วิธีการป้องกันพวกเขา?
2427). วิธีนี้ จะมีแผลผ่าตัดที่ยาว ประมาณ 10 ซม. (รูปที่ 1) โดยหากมีนิ่วในท่อน้ำดีร่วมด้วย ก็จะทำการเปิดท่อน้ำดี เพื่อเอานิ่วออกได้ไปพร้อมกัน. ปัจจุบัน มีการผ่าตัดอีกวิธี คือ การผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก โดยใช้กล้องส่องผ่านหน้าท้อง (Laparoscopic Cholecystectomy) โดยศัลยแพทย์ชาวฝรั่งเศส ทำเป็นครั้งแรก เมื่อ พ. 2530 นี้เอง. วิธีนี้ กำลังเป็นที่นิยม และทดแทนการผ่าตัดวิธีมาตรฐานดั้งเดิม เนื่องจากมีแผลผ่าตัดที่เล็กลง (เป็นแผลเล็ก ๆ จำนวน 4 แผล ขนาด 0. 5-1 ซม. เท่านั้น - รูปที่ 2). แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น เนื่องจากมีการใช้กล้อง และอุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติมหลายอย่าง. ในการผ่าตัดวิธีนี้ หากมีนิ่วในท่อน้ำดีร่วมด้วย ก็สามารถเอาออกได้ หรืออาจใช้ วิธีส่องกล้องผ่านทางเดินอาหาร (จากปากเข้าไปถึงลำไส้เล็ก) เพื่อเอานิ่วในท่อน้ำดีออกก็ได้ โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดหน้าท้อง เช่นกัน. (เรียกวิธีการนี้ว่า อีอาร์ซีพี (Endoscopic Retrograde Cholangiopancreatography). ข้อดีของการผ่าตัดถุงน้ำดีออกโดยใช้กล้อง 1. อาการปวดเจ็บที่แผลผ่าตัดมีน้อยกว่า. 2. ระยะเวลาที่ต้องอยู่ ร. พ. สั้นกว่า (ประมาณ 1-2 วัน หลังผ่าตัด, เทียบกับ 5-7 วัน ในการผ่าตัดแบบเดิม).